8 เทรนด์การออกแบบเว็บไซต์ ที่จะเปลี่ยนไปในปี 2021

ในแต่ละยุคแต่ละสมัย การออกแบบเว็บไซต์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จากการวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้งาน จะเห็นว่าผู้เข้าใช้เว็บไซต์มีความต้องการที่จะเห็นสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ และตอนนี้ก็ใกล้ศักราชใหม่แล้ว แอดมินมีเทรนด์ใหม่ๆสำหรับปี 2564 มาฝากกัน 

บทความนี้จะกล่าวถึงเรื่องของ แนวโน้มของเว็บไซต์แบบไหนที่ผู้ใช้ต้องการ? สิ่งที่เราต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้งาน? แนวโน้มใดที่จะกลายเป็นอดีตและจะมีอะไรมาแทนที่? ซึ่งเราได้รวบรวมเทรนด์การออกแบบเว็บไซต์ไว้ให้คุณแล้ว ไปอ่านกันเลย

กราฟิกที่มีความยืดหยุ่น (Flexible Vector Graphics)

มัลติมีเดีย ก็คือตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้เว็บไซต์สนใจและอยากอยู่ในเว็บไซต์ของเราต่อไป เว็บไซต์ใดที่มีหน้าเว็บไซต์ที่มีภาพประกอบหรือภาพถ่ายที่น่าสนใจมักจะได้รับความนิยมอยู่เสมอ ในทางกลับกัน เว็บไซต์ใดที่เต็มไปด้วยเนื้อหาและมีการโหลดข้อมูลที่นานเกินไป โดยเฉพาะบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เช่นมือถือก็จะทำให้ได้รับความนิยมน้อยลง

การทำกราฟิกให้มีความยืดหยุ่นแสดงได้สวยบนโมบาย และแท็ปเล็ตจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็คือ เมื่อมีการปรับขนาดภาพ นามสกุลไฟล์ GIF PNG และ JPG(Bitmap) ทำให้มีการสูญเสียคุณภาพของภาพไป เช่่น เรื่องของค่าความอิ่มตัว ความคมชัด ทางออกที่ดีที่สามารถทำให้เราไม่ต้องกังวลกับขนาดของภาพและคุณภาพอีกแล้ว นั่นก็คือการใช้ไฟล์ภาพ SVG (Outline)ซึ่งมันจะช่วยปรับขนาดภาพให้พอดีกับหน้าจอโดยที่คุณภาพของภาพนั้นยังคงดีแบบต้นฉบับ ซึ่งถือเป็นเทรนด์สำคัญมากเนื่องจากทุกเว็บไซต์ต้องใช้ทั้งกราฟิกและเวกเตอร์เพื่อประกอบเว็บไซต์อยู่แล้ว

การเน้นข้อมูลให้โดดเด่น (The emphasis on data)

ข้อมูลเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบเว็บไซต์ เพราะใช้ในการสื่อสารกับผู้ใช้ ดังนั้นผู้ออกแบบต้องคำนึงถึงโครงสร้างของข้อมูล และการจัดวางองค์ประกอบของข้อมูลให้เหมาะสมมากที่สุด

การให้นำ้หนักข้อมูล การเน้นคำ หรือทำให้ข้อมูลโดดเด่น มีส่วนช่วยให้ข้อความน่าอ่านขึ้น ทำให้เห็นการเปรียบเทียบข้อมูลได้อย่างชัดเจน และช่วยในเรื่องของการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยดึงดูดให้ผู้ใช้อยู่บนเว็บไซต์ของเรานานขึ้น ซึ่งการเน้นข้อมูลให้โดดเด่นก็มีโอกาสทำให้เว็บไซต์ติด SEO ในหน้าแรกของ Google ได้อีกด้วย นักออกแบบเว็บไซต์จึงมีการเพิ่มบทบาทในเรื่องโครงสร้างของการออกแบบข้อมูลให้มีความสำคัญมากขึ้น

การออกแบบดีไซน์ที่ไม่สมมาตร (Asymmetric layouts)

เป็นเวลาหลายปีที่เราออกเเบบเว็บไซต์โดยใช้ Grid Systems ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการออกเว็บไซต์ได้อย่างมีขอบเขตชัดเจน ช่วยปรับปรุงโครงสร้างและเน้นองค์ประกอบหลัก แต่ในทางกลับกัน Grid Systems เองก็ลดความเป็นเอกลักษณ์ของเว็บไซต์ด้วยเหมือนกัน ดังนั้นเทรนด์ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คือ การออกแบบที่ไม่สมมาตร

ความไม่สมมาตรเป็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลงดีไซน์เดิมๆ ที่อยู่ในกรอบมานานให้เกิดความสนุกสนานและได้ใช้ไอเดียอย่างไม่จำกัด แต่นักออกแบบเองก็ต้องหาจุดสมดุลของการออกแบบเว็บไซต์ให้ได้เนื่องจากการออกแบบนั้นทำมาเพื่อให้ผู้ใช้ใช้งาน ฉะนั้นนักออกแบบต้องคำนึงว่าส่วนประกอบของเว็บไซต์จะไม่หนักจนเกินไป เน้นสิ่งสำคัญหรือจุดขายให้มีขนาดที่ใหญ่มากขึ้นเพราะสิ่งแรกที่ผู้ใช้จะมองคือองค์ประกอบที่มีขนาดใหญ่ก่อนเสมอ 

เงา และองค์ประกอบที่ลอยตัว (Soft shadows and floating elements)

การดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ในอีกทางหนึ่งก็คือการใช้วิดีโอเป็นภาพพื้นหลังซึ่งทำให้การเคลื่อนไหวดูน่าสนใจ การใช้ภาพถ่ายประกอบบนเว็บไซต์โดยทั่วไปแล้วมีการใช้อย่างแพร่หลาย แต่การจะทำให้รูปภาพนั้นน่าสนใจจะทำได้อย่างไร คำตอบคือการใช้เงาที่มีความนุ่มนวลและทำให้องค์ประกอบภาพลอยตัวขึ้น ทำให้การออกแบบเว็บไซต์ดูเป็นชั้นๆ น่าสนใจมากขึ้น 

เราสามารถใช้เอฟเฟ็กต์นี้กับการออกแบบอะไรได้บ้าง?

• เนื้อความ
• หัวเรื่อง
• ภาพประกอบ
• ปุ่มสำหรับการใช้งาน

กล่าวก็คือสามารถที่จะเพิ่มเงาและเอฟเฟ็กต์แบบลอยตัวให้กับองค์ประกอบใดก็ได้ในเว็บไซต์ แต่ต้องคำนึงถึงความเหมาะสม ความสวยงาม และความเป็นเอกลักษณ์ของเว็บไซต์เป็นหลัก

การผสมภาพถ่ายและกราฟิก (Mixing Photos and Graphics)

การใช้ภาพถ่ายจริงผสมกับภาพประกอบหรือกราฟิก จะช่วยให้เว็บไซต์ดูน่าสนใจ โดดเด่นจากเว็บไซต์ทั่วไป และช่วยรักษาความเป็นแบรนด์ของคุณได้มากขึ้น

ธีมสีเข้ม (Dark theme)

เป็นเวลายาวนานมากที่พื้นฐานของเว็บไซต์จะใช้ธีมสีขาว ซึ่งก่อนหน้านี้มีการพยายามใช้ธีมสีเข้มแต่ไม่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทำให้ธีมสีขาวยังคงเป็นธีมยอดนิยมมาจนถึงปัจจุบัน แต่แนวโน้มในปี 2564 จะเปลี่ยนไป ดูได้จากการออกแบบหน้า Landing Page ของแบรนด์ใหญ่ๆ เช่น Apple, Mercedes-Benz, Hublot และแบรนด์ยอดนิยมอื่นๆ อีกมากมาย

การเปลี่ยนแปลงโทนสีนั้นทำให้การออกแบบมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ดังนี้

• ทำให้มองเห็นองค์ประกอบการออกแบบได้ชัดเจนขึ้น
• เพิ่มอัตราส่วนความคมชัด
• ถนอมสายตาได้ดีกว่าในที่มืด ทำให้ความเครียดในดวงตาน้อยลง
• ทำให้เว็บไซต์ดูสง่างามมากขึ้น

Apple เพิ่มธีมสีเข้มใน iOS 13 ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ใช้จำนวนมาก แม้กระทั่งแอพยอดนิยมอย่าง Instagram, Whatsapp ก็ยังมีการเพิ่มเฉดสีเข้มเข้ามาเอาใจผู้ใช้งาน กระแสธีมสีเข้มนี้กำลังแพร่กระจายและเป็นที่นิยมมากขึ้นในทุกพื้นที่ อีกข้อดีของธีมสีเข้มก็คือช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ยืดอายุการใช้งานของหน้าจอ และยังช่วยให้นักออกแบบสร้างองค์ประกอบที่สร้างสรรค์โดยใช้แสงนีออนซึ่งเป็นหนึ่งในเทรนด์การออกแบบในปี 2021 ได้ดีอีกด้วย

ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) แทรกซึมเข้ามาอยู่ในชีวิตของเรามากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงทางด้านการตลาด บนเว็บไซต์ของเราควรมี AI ไว้สำหรับใช้ในการเก็บข้อมูลเพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ต่อไป ซึ่งสิ่งที่ AI สามารถทำได้คือ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้อ่าน, การเลือกภาพกราฟิกโดยอัตโนมัติ, ดำเนินการทดสอบ, จัดวางองค์ประกอบให้ได้รับความสนใจในที่ที่เหมาะสมที่สุด ในทุกๆ วันผู้ใช้มักจะมีความคาดหวังที่จะเจอกับสิ่งที่ต้องการค้นหาอย่างตรงจุด ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ AI สามารถทำได้ดี

ความพร้อมใช้ (Availability of use)

การเข้าถึงเว็บไซต์สำหรับผู้ใช้ถือเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการออกแบบ ซึ่งผู้ใช้ในที่นี้รวมถึงผู้ใช้ที่เป็นผู้พิการด้วยเช่นกัน ปัจจัยนี้กำลังเป็นประเด็นหลักที่หลายองค์กรกำลังปรับปรุงและพัฒนาเพื่อให้ผู้พิการสามารถใช้งานได้อย่างไร้ขีดจำกัด ดังนั้นสิ่งที่ต้องคำนึงและพัฒนาต่อยอดให้รองรับกับผู้ใช้ทุกกลุ่มมีดังนี้

• เว็บไซต์ที่สามารถบันทึกเสียงได้
• เว็บไซต์ที่สามารถถอดเสียงได้
• เว็บไซต์ที่มีคำบรรยาย
• เว็บไซต์ที่มีแบบอักษรที่หลากหลาย

ในกรณีที่มีการออกแบบโดยใช้วิดีโอเข้ามาเป็นส่วนประกอบนักออกแบบควรคำนึงว่าผู้ใช้ในทุกกลุ่มสามารถเข้าใจในวิดีโอนั้นได้อย่างทั่วถึง อย่างเช่น มีคำบรรยาย หรือมีภาษามือประกอบ และการจัดวางข้อมูลต่างๆ ก็เช่นกันต้องตรวจสอบและคิดอย่างเป็นกระบวนการว่าผู้ที่มีปัญหาทางสายตาสามารถที่จะเห็นข้อความนั้นได้โดยง่าย ซึ่งแนวโน้มนี้อาจจะสร้างความยุ่งยากให้กับนักออกเเบบเว็บไซต์ไปบ้าง แต่ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำให้สามารถขยายกลุ่มเป้าหมายออกไปได้

แนวโน้มการออกแบบที่จะหายไป (Outgoing trends)

การออกแบบเว็บไซต์ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการพัฒนาเว็บไซต์ ซึ่งแนวคิดของการเพิ่มองค์ประกอบจำนวนมากลงไปในเว็บไซต์ให้ดึงดูดสายตาของผู้ใช้ไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกต่อไป หรือแม้กระทั่งในเรื่องของการใช้รูปทรงเลขาคณิตมาประกอบเว็บไซต์ ซึ่งค่อนข้างจะด้านไม่มีมิติทำให้มองดูแล้วเกิดความเบื่อหน่ายและจำเจก็น่าจะไม่มีให้เห็นแล้วในปี 2564 และอีกหนึ่งแนวโน้มที่จะหายไปก็คือ การใช้สีสันสดใสอิ่มตัว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เว็บไซต์สูญเสียความเป็นที่นิยม เนื่องจากการมองนานๆ ทำให้เกิดความตึงเครียดและ เกิดการปวดตา ซึ่งสีที่จะเข้ามาตอบโจทย์แทนสีสดใสอิ่มตัวก็คือสีพาสเทล ส่วนสุดท้ายคือวิดีโอและภาพเคลื่อนไหวที่ไม่เหมาะสมเเละเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ ส่วนนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เว็บไซต์ช้าและอาจทำให้เว็บไซต์ไม่น่าสนใจไปด้วย

หลายๆ คนคาดเดาไปว่าในปี 2563 นั้นจะเป็นการส่งสัญญาณถึงความเปลี่ยนแปลง แต่แท้ที่จริงแล้วปี 2563 นั้นเป็นปีแห่งการวิเคราะห์ความต้องการใหม่ๆ ของผู้ใช้ ซึ่งเราจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในปี 2564 นักออกแบบคงจะมีการปรับเปลี่ยนเทรนด์ในการออกแบบทำให้เว็บไซต์ดูแตกต่างไปจากเดิมได้อย่างสิ้นเชิง

ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่ Facebook: VTACecommerce Website:www.vtacecommerce.com 

Line OA: @vtacecommerce