Plugin WordPress ยอดฮิต พิชิต SEO อันดับ 1

Plugin WordPress ยอดฮิตพิชิต SEO

วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับ Plugin ที่มีชื่อว่า Yoast SEO ได้ยินชื่อกันแล้วหลายๆ ท่านอาจจะกำลังสงสัยว่ามันคือปลั๊กอินที่เอาไว้ทำอะไร หรืออาจจะมีบางท่านที่รู้อยู่แล้วตั้งแต่ได้ยินชื่อของมันครั้งแรก Yoast SEO คือปลั๊กอินที่นำมาช่วยเสริม และปรับแต่งด้าน Technical ที่เกี่ยวข้องกับ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ของเรานั้นเป็นมิตรกับการค้นหาของ Google มากที่สุด

โดยปลั๊กอินนี้ไม่ได้ช่วยให้เว็บของเราติดหน้าแรก แต่จะช่วยในการตรวจสอบโครงสร้างเนื้อหาของหน้าเว็บของเรา โดยใช้สัญญาณไฟจารจร (เขียว เหลือง แดง) เป็นตัวบ่งบอกว่าเนื้อหา หรือโครงสร้างเว็บไซต์ที่เราวางข้อมูลลงไปนั้นดีพอหรือยัง โดยถ้ามีไฟสีแดงปรากฎขึ้น แสดงว่า SEO ในหน้าเว็บไซต์ยังไม่ดีต้องปรับแต่งเพิ่มเติมอีกหลายขั้นตอน ในกรณีที่เป็นสีเหลืองแสดงว่าพอใช้ได้ และถ้าติดไฟเขียวเมื่อไหร่แสดงว่าหน้าเพจของเรามีการใช้เทคนิค SEO ที่ดีเยี่ยม และถูกหลักในแบบที่ Google ต้องการ วิธีการติดตั้งและการใช้งานก็ง่ายๆ ทำตามวิธีต่อไปนี้ที่เรานำมาเล่าสู่กันฟังได้เลยจ้า

วิธีการติดตั้ง

1) ให้เราไปที่ Plugin คลิก Add New ค้นหาปลั๊กอินที่มีชื่อว่า Yoast SEO จากนั้นคลิก Activate เพื่อติดตั้งปลั๊กอิน ได้เลยจ้า

Plugin WordPress ยอดฮิต พิชิต SEO อันดับ 1

2) เราจะมาทำการตั้งค่า SEO เบื้องต้นกันค่ะ โดยการ Navigate ไปที่ Yoast SEO โดยเมนูจะอยู่ซ้ายมือด้านล่าง เลือก General  จากนั้นก็จะเข้าสู่หน้า Dashboard หรือหน้าควบคุมของปลั๊กอิน เลือกฟีเจอร์ที่คุณต้องการ แต่ทางเราขอแนะนำให้คุณเปิดไว้ทุกอันเลยดีกว่าค่ะเพื่อการเข้าถึง

วิธีการใช้งาน

Plugin WordPress ยอดฮิต พิชิต SEO อันดับ 1

1) เริ่มต้นการใช้งานกันเลยค่ะ โดยเริ่มต้นจากไปที่หลังบ้าน ในส่วนของบทความของเรา เมื่อเราติดตั้งปลั๊กอินเรียบร้อยแล้ว จะเห็นว่าส่วนด้านล่างของหน้า Post จะมี Option เพิ่มเติมขึ้นมาจากปลั๊กอิน Yoast SEO ให้เราใ่ส่คำ Keyword ที่เราต้องการลงไปในช่อง Focus Keyword

จะเห็นได้ว่าเมื่อเราวาง Focus Keyword ลงไปก็เริ่มมีไฟสีเขียวปรากฎขึ้นมา ให้เราค่อยๆ ไล่ทำตามสิ่งที่ปลั๊กอินแนะนำไว้ทีละขั้นตอนต่อไปค่ะ

2) ชื่อเรื่อง หรือชื่อบทความต้องไม่ยาวหรือสั้นจนเกินไป ควรจะมี Focus Keyword อยู่ในชื่อเรื่องด้วยโดยให้วาง Focus Keyword ไว้ที่คำแรกของชื่อบทความ อีกทั้งในส่วนของ URL ก็เช่นกันต้องประกอบด้วย Focus Keyword อยู่ในนั้น

3) ย่อหน้าแรกของบทความ (First Paragraph) จะต้องมี Keyword ปรากฏอยู่ที่เพราะย่อหน้าแรกนั้นเปรียบเหมือนภาพรวม หรือบทสรุปของเนื้อเรื่องทั้งหมด จึงจำเป็นต้องมี Keyword เพื่อช่วยบอกให้ Google และผู้ใช้งานเข้าใจในสิ่งที่เราจะสื่อสารนั้นเอง

4) Yoast แนะนำว่า ความยาวเนื้อหาของบทความที่ดีควรยาวไม่น้อยไปกว่า 300 คำ (เป็นคำภาษาอังกฤษ) ซึ่งเราจะพบปัญหาได้คือ ปลั๊กอิน Yoast ยังไม่สามารถนับคำภาษาไทยได้ถูกต้อง เราต้องเขียนคำไทย 700 คำ ถึงจะเท่ากับ 300 คำภาษาอังกฤษ ดังนั้นตรงจุดนี้เราอาจไม่ต้องแต่งบทความให้ครบ 300 คำ แค่พยายามเขียนบทความ ให้ Yoast นับคำตรงส่วน The text contains ให้ได้สัก 200 เป็นอย่างต่ำก็เพียงพอแล้ว ถึงแม้ Yoast จะไม่เป็นไฟสีเขียวก็ตาม

5) บทความที่ดีและน่าอ่าน ควรมีรูปภาพประกอบอย่างน้อย 4 รูปภาพขึ้นไป (รวมภาพหน้าปก) และต้องมี 1 ภาพเป็นอย่างน้อยที่ต้องใส่คำหลังรูปหรือที่เราเรียกกันว่า Alt text เป็นคำ Focus Keyword เราต้องใส่ Alt text ตั้งแต่ขั้นตอนอัพโหลดรูปภาพเลย

*ไม่ควรใส่คำ Alt text เป็นคำ Focus Keyword ในทุกรูป ควรกระจายๆ หาคำอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย และชื่อรูปภาพก่อนการอัพโหลดควรมี Focus Keyword ด้วย

6) ในบทความของเราต้องมีทั้ง External link และ Internal links เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ เราจึงควรมีลิงค์จากภายนอกเว็บไซต์ของเรา (External link) ซึ่งเป็นที่มาที่ไป (Reference) ของบางแนวคิดที่เราหยิบยกมาใส่ในบทความของเรานั้นเอง รวมถึงต้องมีลิงค์ภายในเว็บของตัวเองปรากฎอยู่ในเนื้อหาด้วย 

7) Keyword density หมายถึงสัดส่วนของคีย์เวิร์ดเมื่อเทียบกับปริมาณ Text ทั้งหมดในบทความ คำแนะนำคือ ให้เราใส่คีย์เวิร์ดในประโยคแรกของบทความ จากนั้นคือให้กระจายหลวมๆ ทั่วทั้งบทความ คือสัดส่วนของ Keyword เมื่อเทียบกับปริมาณ Text ทั้งหมดในบทความ ไม่ควรเกิน 2.5 % หรือจำนวนคำ Keyword ที่เราพยายามยัดลงไปในบทความ ไม่ควรเกิน 2.5%

8) ในแต่ละบทความจะต้องมีหัวข้อใหญ่ ที่เรียกว่า Subheading และจะต้องมี Keyword อยู่ใน Subheading เพื่อเป็นส่วนประกอบการมีหัวข้อแยกเนื้อหาแต่ละส่วนจะช่วย่ทำให้ผู้อ่าน ได้อ่านบทความของเราได้สะดวก และเข้าใจเนื้อหาของเราได้ง่ายขึ้นนั้นเอง ตัวอักษรเนื้อหาทั่วไปเราควรเลือกใช้ฟอนต์ประเภท paragraph แต่ใส่วนที่หัวข้อเราควรเลือกใช้ฟอนต์ที่เป็นประเภท Heading (ฟอนต์ H1-H6) และต้องมีคำที่เป็น Keyword เป็น H2 รวมอยู่ด้วย

9) Meta description ต้องปรากฏคำ Keyword คำอธิบายบทความแบบย่อ หรือที่เรียกว่า Metadata ต้องปรากฏคำ keyword และมีความยาวที่เหมาะสมไม่ควรสั้นหรือยาวจนเกินไป

สรุปแล้วปลั๊กอิน Yoast SEO เปรียบเหมือนตัวช่วยในการตรวจสอบข้อมูลโครงสร้างบทความของเรา ว่าเป็นมิตรกับการค้นหาของ Google หรือไม่ แต่ไม่ได้การันตรีว่าถ้าหากใช้ Yoast Seo แล้วติดไฟเขียวแล้ว จะทำให้ติดหน้าแรก ขอย้ำว่าการใช้ Yoast SEO เป็นเพียงตัวช่วยที่จะทำให้ Google เข้าใจเนื้อหาของเราได้ง่ายขึ้น เนื่องจากการติดอันดับในหน้าแรกของ Google ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อีกหลายปัจจัย (อ่านบทความเรื่อง SEO on page)

ที่มาจาก : https://padveewebschool.com

ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่ Facebook: VTACecommerce Website:www.vtacecommerce.com 

Line OA: @vtacecommerce

Related Posts

Leave a Reply