5 เทรนด์อัปเดต Digital Marketing ปี 2021
ปีนี้เป็นปีที่เรียกได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงมากมายตั้งแต่ต้นปี จนกระทั่งในเดือนสุดท้ายซึ่งการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายต่างก็เต็มไปด้วยความท้าทาย ผู้บริโภคต่างเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงเทรนด์การทำตลาดก็เปลี่ยนไป ด้วยเหตุนี้หลายแบรนด์จึงเริ่มปรับตัวและเริ่มวางแผนกลยุทธ์ในการทำธุรกิจในปี 2021 ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นโจทย์ที่ไม่ง่ายเลยทีเดียว
Vtacecommerce จึงได้รวบรวมเทรนด์ Digital Marketing สำหรับการต่อยอดและวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่คุณจะต้องเจอในปีหน้า และเทรนด์ Digital Marketing ปี 2021 จะมีอะไรบ้างมาดูกัน
- คอนเทนต์จากผู้บริโภค (User-Generated Content)
- การค้นหาด้วยเสียง (Voice Search)
- อินฟลูเอนเซอร์เฉพาะทาง (Micro-Influencer)
- โฆษณาแบบวิดีโอ (Video Advertising)
- ไลฟ์ คอมเมิร์ซ (Live Commerce)
1. คอนเทนต์จากผู้บริโภค (User-Generated Content)
UGC เป็นหนึ่งในรูปแบบการตลาดแบบปากต่อปากที่ทรงพลังมาก หรือที่เราเรียกว่า คอนเทนต์จากผู้บริโภค UGC คือ เนื้อหา หรือคอนเทนต์ที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายผลิตขึ้นมาเอง เช่น เป็นการพูดถึงแบรนด์หรือร้านค้าที่พวกเขาเหล่านั้นประทับใจ เป็นเนื้อหาที่ลูกค้าเต็มใจโพสต์ โดยที่ทางร้านค้าหรือเจ้าของแบรนด์ไม่ต้องเสียเงินจ้าง
และสำหรับปี 2021 คอนเทนต์ในลักษณะนี้จะขยับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในปีที่ผ่านๆมา คอนเทนต์ UGC นี้เป็นคอนเทนต์ที่หลายๆแบรนด์กว่า 86% นำไปต่อยอดเป็นคอนเทนต์ในธุรกิจ และมีประสิทธิภาพค่อนข้างสูงเพราะมีความน่าเชื่อถือ ช่วยสร้างยอดขายให้กับร้านค้าต่างๆได้จริง
2. การค้นหาด้วยเสียง (Voice Search)
พูดได้เลยว่า ในปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้นี้ หากคุณต้องการให้ผู้บริโภคเข้าถึงเว็บไซต์หรือช่องทางต่างๆ ของแบรนด์ คุณต้องปรับช่องทางต่างๆของแบรนด์ให้เหมาะกับการค้นหาด้วยเสียง
การค้นหาด้วยเสียง หรือ Voice Search คือ การใช้เสียงเพื่อการค้นหา ซึ่งในปัจจุบันนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากมี Device ที่รองรับการสั่ง และค้นหาด้วยเสียงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, Google Home, Amazon Alexa หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านที่มีแนวโน้มจะรองรับคำสั่งเสียงเพิ่มขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่การค้นหาด้วยเสียงเริ่มมีความสำคัญมากขึ้นนั่นเอง
จากข้อมูลล่าสุดของ We Are Social เผยว่า สถิติการใช้ Voice Search ของคนไทยในปี 2020 อยู่อันดับ 7 ของโลก และ 45% ของคนไทยมองว่าการสั่งการค้นหาด้วยเสียงเป็นเรื่องปกติ และคาดว่าในปี 2021 จะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว
3. อินฟลูเอนเซอร์เฉพาะทาง (Micro Influencer)
อินฟลูเอนเซอร์เฉพาะทาง หรือ Micro influencer คือ คนที่มีความรู้ เชี่ยวชาญในเรื่องที่ตัวเองถนัดเป็นอย่างดี (มีผู้ติดตาม 5,001 – 100,000 คน) เน้นทำในสิ่งที่พวกเขาให้ความสนใจจริง ๆ จึงถูกมองว่าเป็นคนที่น่าเชื่อถือ คนกลุ่มนี้สามารถสร้างความสัมพันธ์กับ Follower ได้อย่างแข็งแกร่ง เพราะเนื้อหาที่มีความเฉพาะจึงดึงดูดคนที่ชอบอะไรคล้าย ๆ กันได้
ปัจจุบันบริษัทต่างๆ อาจจะยังไม่ได้ให้ความสนใจกับผู้มีอิทธิพลขนาดเล็กมากนัก แต่สำหรับในปี 2021 Micro influencer ก็ยังเป็นองค์ประกอบที่ช่วยแบรนด์ในการทำการตลาดได้ดี ถึงจะมีผู้ติดตามน้อย แต่เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะแมสเสจของพวกเขาส่งผลถึงการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคโดยตรง กระตุ้นทั้ง Engagement และยอดขาย ที่สำคัญยังเหมาะกับธุรกิจทุกขนาดและทุกกลุ่ม
4. โฆษณาแบบวิดีโอ (Video Advertising)
เนื่องจากปัจจุบันแพลตฟอร์ม Social Media เริ่มพัฒนาฟีเจอร์วิดีโอให้ใช้งานง่ายขึ้น มีลูกเล่นสนุกๆ อัดแน่นเพียบ อาทิ IG Stories, TikTok และ YouTube จากข้อมูลของ eMarketer จึงมีการคาดการณ์ว่า ในปี 2021 เม็ดเงินโฆษณาวิดีโอเพิ่มขึ้นเป็น 14.89 พันล้านดอลลาร์ และ 1 ใน 3 ของผู้บริโภคจะซื้อสินค้าหลังเห็นโฆษณาวิดีโอ
โฆษณาแบบวิดีโอ หรือ Video Advertising คือ การนำเสนอสื่อต่างๆ ในรูปแบบของมัลติมีเดียที่สามารถแสดงภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงบรรยายได้ จากสถิติการใช้งานอินเตอร์เน็ต ระบุว่า ประชาชน 1 คน มีอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ถึง 3 เครื่อง คือ Pc มือถือ และ tablet
เมื่อข้อเท็จจริงชัดเจนขนาดนี้แล้ว ตอบคำถามนี้ด้วยตัวคุณเองว่า “ในหนึ่งสัปดาห์ คุณดูโฆษณาจากหนังสือกี่ครั้ง? ดูโฆษณาจากทีวีกี่ครั้ง? และดูคลิปโฆษณากี่ครั้ง?”
ข้อดีของทำโฆษณาโปรโมทด้วยรูปแบบวิดีโอ
1. เข้าถึงลูกค้าตรงกลุ่มเป้าหมายเพราะลูกค้าเป็นฝ่ายค้นหาเราจดจำเราเลือกบริการของเรา จำนวนคนที่เข้ามาดูเพิ่มขึ้นคลิปวิดีโอที่สวยงามน่าสนใจสร้างแรงกระตุ้นแรงจูงใจให้มาเยี่ยมชมเว็บหรือเพจของร้านได้อย่างดี
2. ประหยัดค่าใช้จ่ายและมีประสิทธิภาพ สามารถวัดผลได้แม่นยำบุ๊คมาร์คและส่งต่อได้ทันทีไม่มีลืมเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ทันยุคทันสมัย
3. สร้างแฟนคลับและแบรนด์รอยัลตี้กับกลุ่มลูกค้าการทำโปรโมทอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้าที่บอกต่อนั้นกลับมาซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสร้างความเชื่อมั่น จากคลิปเก่าย้อนหลังไปได้อีกด้วย
5. ไลฟ์ คอมเมิร์ซ (Live Commerce)
ไลฟ์ คอมเมิร์ซ หรือ Live Commerce คือ การผสมผสานระหว่างการเผยแพร่วิดิโอแบบ Real-Time หรือไลฟ์สตรีมมิ่ง เข้ากับ E-commerce หรือการซื้อขายออนไลน์เข้าด้วยกัน หรือที่เราคุ้นหูกันว่า Live ขายของ, ไลฟ์ขายของ นั่นเอง โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นสินค้าชนิดไหน ขายอยู่ที่ใด อีกทั้งผู้ขายและผู้ซื้อยังสามารถพูดคุย แลกเปลี่ยน หรือนำเสนอสินค้าได้ทันที
ในปีที่ผ่านมาการไลฟ์ขายสินค้าในเอเชียโตขึ้น 46.4% สำหรับในไทยเองก็มีแพลตฟอร์มที่เหมาะกับการไลฟ์ อาทิ Facebook, Instagram, Lazada, Shopee เป็นต้น แม้การไลฟ์จะทำได้ง่าย แต่สำหรับแบรนด์และนักการตลาดต้องทำการบ้านอย่างหนักหน่วง เพื่อรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดขึ้น เพราะการไลฟ์เป็นการสื่อสารแบบ Real-Time ทำอย่างไรให้ดึงดูดผู้ชมได้ตลอดการไลฟ์ ดูแล้วอยากซื้อทันที และที่สำคัญคือต้องมี Influencer หรือผู้ดำเนินรายการที่เหมาะสม มีความน่าเชื่อถือ มีลูกเล่นเพื่อสื่อสารกับคนดู
และในปี 2021 ดูเหมือนจะไม่สามารถคาดเดาได้ ด้วยสถานการณ์ของโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ความสามารถในการปรับตัวเป็นกุญแจสำคัญสำหรับแบรนด์ที่ต้องการอยู่รอดและเติบโต
และนี่คือ 5 เทรนด์อัปเดตสำหรับ Digital Marketing ปี 2021 เป็นเทรนด์ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นที่นิยมมากๆ สำหรับเจ้าของแบรนด์สินค้าต่างๆ ซึ่งเรารวบรวมมาให้ อ่านแล้วแอดเชื่อว่าเป็นสิ่งที่เราสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง และมีผลลัพธ์ที่อยู่ในเกณฑ์ดี ใครถนัดในข้อไหน หรือจะเลือกทำทั้งหมด 5 เทรนด์ แอดว่าก็จะยิ่งทำให้แบรนด์ของคุณประสบความสำเร็จได้ไม่ยากเลยทีเดียว ใครลองทำแล้วได้ผลยังไงก็อย่าลืมมาอัปเดตหรือมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆบ้างนะคะ คราวหน้าแอดจะมีเทรนด์เด็ดอะไรอย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: https://afluencer.com
ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่
Facebook: VTACecommerce Website: www.vtacecommerce.com
Line OA: @vtacecommerce