เรื่องค้าขายไม่เข้าใครออกใคร แต่หากใครจับเทรนด์ได้ก่อนถือว่าชนะ
วันนี้ VTAC มีแนวโน้มเทรนด์ธุรกิจมาแน่จาก Shopify ธุรกิจไหนร่วง ธุรกิจไหนได้ไปต่อ
มาดูกันค่ะ
1. ของเล่นเด็ก (YOY 1239%)
เทรนด์ธุรกิจมาแรงและมีแนวโน้มว่าจะยังคงตลาดอยู่อีกนางคือ อุตสาหรกรรมของเล่น ซึ่งมีมูลค่าตลาดสูงถึง $110.97 พันล้าน ซึ่งอุตสาหกรรมของเล่นนี้มีอะไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น ของเล่นเสริมทักษะทั้งในร่มและกลางแจ้ง ของเล่นโดรน รวมไปถึงฟิกเกอร์โมเดลจำลองตัวการ์ตูน ซึ่งมีการเติบโตสูงถึง 294% ทั่วโลก โดยค่าเฉลี่ยการค้นหาคำว่า “ของเล่น” มีมากกว่า 1.8 ล้านครั้งต่อเดือน แน่นอนว่าไม่หยุดแค่เท่านี้แน่นอนค่ะ
ส่วนแนวทางการทำ Marketing บนตลาดของเล่นล่ะก็ “Friend trust friend” เป็นแนวคิดส่งเสริมการบอกต่อ จากเพื่อนสู่เพื่อน หากใครมีงบซักหน่อย ลองเข้าสู่การตลาดแบบ Influencer Marketing โดนใช้พื้นที่ของอินฟลูเอนเซอร์ในการโปรโมท ซึ่งการรีวิวของเล่นมักเป็นที่น่าสนใจของเด็กๆ สร้างคอนเทนต์น่าสนใจอย่างการทดลองเล่นขายของด้วยชุดจำลองการทำครัว ช่วยเสริมสร้างจินตนาการได้ง่ายขึ้นค่ะ
2. รองเท้า (YOY 1,086%)
สินค้ายอดฮิตตลอดกาลโดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดพิเศษอย่างวันคริสมาสตร์ ขายดีจนถึงกับต้อง Resell ออกมาขายเหมือนไนกี้จอร์แดนเลยทีเดียว โดยตลาดรองเท้าทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง $365.5 พันล้าน และคาดการณ์ว่าจะถึง $530.3 พันล้านในปี 2027 เลยทีเดียวค่ะ
ด้วยความหลากหลายลูกเล่นของวัสดุ ซึ่งขึ้นอยู่กับคุณภาพและราคา ยิ่งในปัจจุบันเทรนด์การออกกำลังกายนิยมมากทั้งไทยและเทศ ทำให้ความต้องการร้องเท้ากีฬาเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มอายุยิ่งทำให้อุตสาหกรรมตลาดรองเท้า สามารถขยายได้ใหญ่ขึ้นอีกมากตามที่คาดการณ์ไว้แน่นอน
การจับตลาดรองเท้าออนไลน์นั้น ก่อนอื่นให้มุ่งเป้าไปที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งพฤติกรรมการค้นหาของคนส่วนใหญ่จะมุ่งเป้าไปที่สิ่งที่ต้องการโดยตรง เช่น จำนวนการค้นหาคำว่ารองเท้าผู้ชาย 1.2 ล้านครั้งต่อเดือน และรองเท้าผู้หญิง 820,000 ครั้งต่อเดือน
ส่วนรูปแบบการขายรองเท้าบนช็อปปิฟายสามารถตั้งค่าให้แสดงไปยังเว็บไซต์ปลายทางต่างๆ เช่น Amazon หรือ eBay หรือ Social Media อย่าง Facebook หรือ IG ก็ได้เหมือนกันค่ะ
3. เครื่องเขียน (YOY 540%)
เทรนด์ยอดฮิตของมันต้องมีแล้วเข้าถึงทุกช่วงวัยคือ เครื่องเขียน โดยเฉพาะปากกาและดินสอ ซึ่งถูกพัฒนามาไกลกว่าแต่ก่อนมากกก เรียกได้ว่าแทบจะเป็นสิ่งที่รังสรรค์จินตนาการด้วยสินค้าราคาไม่แพง แต่ต้องซื้อหลายแท่งจะได้จดโน๊ตได้โดดเด่น ซึ่งปากกาหรือดินสอมีหลายชนิดแยกไปอีกหลายขแนง หลายรูปแบบ หลายช่วงวัย ซึ่งสถิติปี 2021 บันทึกไว้ว่า มีการ Search คําว่า “ปากกา” มากกว่า 673,000 ครั้งต่อเดือน โดยเจาะจงเฉพาะปากกาหมึกซึมก็ล่อเข้าไปแล้ว 201,000 ครั้งต่อเดือน ตามมาด้วย “ปากกาปาร์กเกอร์” หรือ ยี่ห้อปากกาหมึกซึมสุดหรู 165,000 ครั้งต่อเดือน
ส่วน “ดินสอ” มีการค้นหาถึง 550,000 ครั้งต่อเดือน โดยเจาะจงเฉพาะคําว่า “ดินสอกด” 90,500 ครั้ง และ “ดินสอสีพริสม่า” 74,000 ครั้งต่อเดือน
โดยสามารถแยกออกมาเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ๆ มูลค่ารวม $21 พันล้าน หรือราวๆ 69 พันล้านบาท ได้แก่
- นักเรียน ปากกา ดินสอสีสําหรับช็อตโน๊ตเรียนให้ดูมีสีสัน ดึงดูดให้สนุกกับการจดและการอ่าน
- ศิลปิน ผลิตภัณฑ์จะแบ่งตามเกรดและเฉดสีหายาก สําหรับมืออาชีพโดยเฉพาะ
- หรูหรา มีหลายแบรนด์ที่ทําปากการุ่น high-end เพื่อให้เข้ากับภาพลักษณ์ที่ดูแพงหรือดูเสริมความเป็นมืออาชีพ
- ธุรกิจ กลุ่มนี้จะเป็นปากกาที่ไม่เน้นสีสัน เป็นสีธรรมดา เน้นจดการประชุม เตือนความจําสั้นๆ ดีไซน์อาจจะทําให้ดูเป็นผู้ใหญ่ในราคาที่จับต้องได้
ซึ่งสไตล์การทําการตลาดของเครื่องเขียนประเภทปากกาหรือดินสอ แนะนําให้เริ่มจากการจํากัดเป้าหมายให้แคบมากที่สุด เช่น แคมเปญปากกานําโชคของ Pentel ทีมีดีไซน์หรูหราเหมาะสําหรับการเกาะกระแสช่วงที่คนไทยกําลังเชื่อเรื่องสีมงคล เมื่อมีกระแสตอบรับเราอาจจะยื่นข้อเสนอเพื่อสนับสนุนให้เขา Tag Landing มาที่ Website ของเราโดยตรง ซึ่งพฤติกรรมของลูกค้าสไตล์นี้คือการเห็นจากการ รีวิว บนโซเชียลมีเดีย หากเราทําช่องทางให้สะดวกต่อการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของเรา จะทําให้กินใจลูกค้ามากยิ่งขึ้นค่ะ
อีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งคือการยิง Ads ผ่าน Google Shopping โดยใช้คําเฉพาะเจาะจงเช่น ปากกานําโชค เพื่อกระตุ้นความอยากรับรู้มากขึ้นค่ะ
4.. Drills สว่าน
Global order growth (YOY): 371%
เทรนด์การปรับปรุงบ้านกําลังเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีเช่นกัน โดยคาดว่าการตลาดในการปรับปรุงบ้านคาดว่าจะพุ่งขึ้นสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2027 หรือราวๆ 33 ล้านล้านบาทเลยค่ะ ซึ่งเหล่า Retailer ยังเตรียมสต็อกสินค้าที่คาดว่าจะมีแนวโน้มขึ้นทะยานสูงสุดเช่น ดอกสว่าน เลื่อยไฟฟ้า อย่าง เลื่อยไฟฟ้าอย่างเดียวก็เดาได้ว่าน่าจะเกือบ 13.6 พันล้านดอลล่าร์ในปี 2024 หรือราวๆ 4 แสนล้านบาทเลยค่ะ
สิ่งที่ทําให้เทรนด์นี้ได้ไปต่อคือการขยายธุรกิจเครื่องมือช่างสู่ Retailers แน่นอนว่าแทบทุกบ้านต้องมีอุปกรณ์เครื่องมือช่างติดบ้านไว้บ้างเผื่อซ่อมแซมบ้าน ซึ่งแล้วแต่ชนิดการใช้งานที่ต้องการของลูกค้า ซคางคุณสามารถขายสินค้าผ่าน Search-based ads เช่น Google Shoping ได้เลย เพราะแต่ละเดือนมีคนเสิร์ชคําว่า สว่าน มากกว่า 450,000 ครั้ง จากการเสิร์ชทุกพื้นที่ หรือทํา Influencer marketing ผ่านพื้นที่ของอินฟลูเอนเซอร์ก็ช่วยได้เยอะ
5. Motor vehicle parts ชิ้นส่วนยานยนต์
Global order growth (YOY): 326%
ไม่กี่เดือนมานี้เองชิ้นส่วนยานยนต์มียอดขายดีมากบน Shopify และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่องทางดิจิตอล ทั้ง Sales and Service โดยมีมูลค่ากว่า 390 พันล้านดอลล่าห์ หรือราวๆ 11.0 พันล้านบาทในปี 2563 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 3.8% ในปี 2028 โดยสินค้ายอดฮิตได้แก่ ยางรถยนต์ แบตเตอรี่ อะไหล่เบรค ตัวกรอง ส่วนของร่างกาย ส่วนประกอบของแสงสว่าง ล้อ ส่วนประกอบท่อไอเสีย เทอร์โบชาร์จชาร์จเจอร์
ซึ่งแนวทางการทําการตลาดประเภทนี้ ก่อนอื่นต้องเข้าใจเป้าหมายหรือลูกค้าของคุณก่อน เช่น หากเป็นลูกค้าสายลุย อุปกรณ์ยานยนต์อย่าง ยางรถยนต์ พวกเขาต้องการยางที่ทนทานและใช้งานได้ทุกสภาพพื้นผิว หรือพวกรถครอบครัว มินิแวน ลูกค้าจะต้องการยางที่มีสมรรถนะสูง อายุดอกยางดี และการรับประกันคุณภาพยางที่ดีด้วยค่ะ
ส่วนวิธีการทําคอนเทนต์หรือโปรโมทสินค้าประเภทนี้ เช่น การสร้างคอนเทนต์เคล็ดลับการใช้งาน หรือการเริ่มต้นทํา Blog เกี่ยวกับรถยนต์ เริ่มทําแคมเปญสนับสนุนพวกอุปกรณ์ หรือโปรโมทร่วมกันกับบริษัทยานยนต์ที่อื่นๆ
6. Bras เสื้อชั้นใน
Global order growth (YOY): 306%
เสื้อชั้นใน หรือที่เราเรียกกันเป็นภาษาบ้าน ๆว่า ยกทรงเป็นหนึ่งในกระแสผลิตภัณฑ์ออนไลน์ ที่มีแนวโน้มที่จะได้กําไรสูงอยู่สม่ําเสมอ เพราะเป็นสิ่งที่จําเป็นต่อผู้หญิงมากๆ โดยตลาดเสื้อชั้นในขนาดใหญ่และคาดจะสูงถึง 57 พันล้านดอลล่าร์หรือราวๆ 1.8 ล้านล้านบาท ภายในปี 2026
ซึ่งคําว่า “เสื้อชั้นใน” มีการค้นหาถึง 1.5 ล้านครั้งต่อเดือน โดยมีการเสิร์ชหาแบบเจาะจงถึงรูปแบบของเสื้อชั้นใน เช่น
เสื้อชั้นในแบบพลัสไซต์ มียอดค้นหา 49,500 ครั้งต่อเดือน ยกทรงสีชมพู 22,200 ครั้งต่อเดือน เสื้อชั้นในแบบไร้โครง 33,100 ครั้งต่อเดือนและเสื้อชั้นในลดราคา 27,100 ครั้งต่อเดือน
โดยคุณอาจจะทําการตลาดแบบคอลเล็คชั่นหรือร้านค้าเฉพาะ อย่างเช่นคอลเล็คชั่นสําหรับออกกําลังกายในฟิตเนสหลากหลายประเภท อาจจะมีโอกาสที่จะได้ขยายธุรกิจไปยังผลิตภัณฑ์หรือกระแสอื่นที่เกี่ยวข้องได้เช่น ชุดเครื่องนอนหรือผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ โดยช่องทางการขายก็คงไม่พ้นแพลตฟอร์มยอดนิยมสําหรับผู้หญิงอย่าง เฟสบุ๊ค ไอจี หรือ Pinterest โดยใช้เทคนิคการเข้าถึงแบบ Organic ก่อนแล้วค่อยขยับไปเป็นการ Boost โพสต์
อีกหนึ่งแนวทางสําหรับใครที่มีงบเยอะ คือการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ โดยอาจจะให้ค่าตอบแทนเป็นค่าจ้างหรือค่าคอมมิชชั่นก็แล้วแต่ตกลงกันเลยค่ะ
7. Office chairs เก้าอี้สํานักงาน
Global order growth (YOY): 304%
เก้าอี้สํานักงานก็เป็นอีกหนึ่งสินค้าในบ้านที่ยังคงเป็นเทรนด์อยู่จากการ Work from home และมีแนวโน้มน่าจะยังคบทํางาน from home ที่บ้านอีกนานเลยมีแผนที่จะเปลี่ยนเก้าอี้สํานักงานซึ่งจะช่วยประสิทธิภาพในการทํางานเพิ่มมากขึ้น ลดอาการปวดหลัก หรือปวดก้นจากพฤติกรรมการนั่งทํางานและเก้าอี้ที่ผิดวิธี ซึ่งข้อมูลจากคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับ “เก้าอี้ทํางาน” ทั่วทุกที่ มีผลลัพธ์ออกมาว่า
คําว่า เก้าอี้สํานักงาน 1,220,000 ครั้งต่อเดือน เก้าอี้ Ergonomic (เก้าอี้การยศาสตร์) 90,500 ต่อเดือน เก้าอี้สํานักงาน 49,500 ต่อเดือน เก้าอี้สํานักงานลดราคา 49,500 ต่อเดือน
การกําหนดเป้าหมายลูกค้าของคุณขึ้นอยู่กับว่าเป้าหมายเป็นคนกลุ่มใด หากต้องการขายเก้าอี้เด็ก เป้าหมายจึงเป็นผู้ปกครองที่มีอํานาจซื้อ ซึ่งที่ที่ดีที่สุดสําหรับจะกําหนดเป้าหมายไปยังผู้ปกครอง คือโปรโมทผ่าน Facebook ads., Instagram and Pinterest ถ้าหากคุณกําลังจะขายให้กับสํานักงานหรือนักธุรกิจ คุณควรจะใช้ Instagram ads. ซึ่งอาจจะใช้ แผนการตลาดแบบ Influencers ที่มีอิทธิพลบนโซเชียลมีเดีย หรืออาจจะ ads. ผ่าน Linkedln ads. ตรงไปที่บริษัท หรือผู้ Work from home โดยตรง
ข้อดีของเก้าอี้สํานักงานสํานักงานคือเก้าอี้สํานักงานไม่ใช่ สินค้าตามฤดูกาล เพราะฉะนั้นคุณสามารถทําการตลาดทาง Google Shopping ได้ยาวๆ เลยค่ะ
8. Eyebrow enhancers
Global order growth (YOY): 266%
พูดถึงเรื่องอุตสาหกรรมความงามแล้ว ดินสอเขียนคิ้ว ที่กําลังได้รับความนิยมมากทั้งทาง Shopify, Google และบน Aliexpress จากสถิติคําว่าเขียนคิ้วจากทุกที่ ได้รับการค้นหามากกว่า 3,600 ครั้งต่อเดือน โดยมีรายละเอียดอื่นๆ อย่างพวกเซรั่มบํารุงขนคิ้ว ที่มีการค้นหาถึง 1,300 บน Google
คีย์เวิร์ดพวกนี้ยังลามไปถึงแพลตฟอร์ม Youtube จนขึ้นถึง 20 อันดับ เกี่ยวกับการเทคนิคการเขียนคิ้ว ซึ่งได้รับการรับชมถึง 778,400 ครั้งต่อเดือน และยังรวมไปถึงผลิตภัณฑ์เครื่องสําอางค์อื่นๆ เช่น อายไลน์เนอร์ ไฮไลท์ ลิปสติกและอื่นๆ
เมื่อต้องการทําการตลาดเครื่องสําอางค์ให้ได้รับความนิยม ให้โฟกัสไปที่แพลตฟอร์ม Instagram, TikTok และ Youtube และทําการตลาด Influencer Marketing เพื่อโปรโมทบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ บนพื้นที่ของอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อให้แบรนด์ของคุณเติบโตได้เร็วขึ้น เช่นการสร้างคอนเทนต์รีวิว หรือเคล็ดลับสอนแต่งหน้า เพื่อเพิ่ม Awareness ให้มากยิ่งขึ้น
9. Digital artwork
Global order growth (YOY): 260%
ช่วงนี้เทรนด์ดิจิตอลศิลปะดิจิทัล ซึ่งจริงๆ มีมานานแล้ว แต่เพิ่งมานิยมช่วงโควิดระบาด โดยศิลปะดิจิตอล สามารถแปลงเป็นค่าเงินดิจิตอล NFTs (Non-fungital tokens) บน Blockchain แต่ใครจะคิดว่ามันจะเป็นเทรนด์ดิจิตัลที่เรียกได้ว่าแทบระเบิดในปี 2564 จากสถิติ จะเห็นได้ว่า ค่าของตลาด Global online art market จะเติบโตขึ้นถึง 9.32 พันล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 2 ล้านล้านบาท ในปี 2567
รูปภาพที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ Everydays: The first 5000 Days ผลงานของศิลปินดิจิตอลนามแฝงว่า Beeple หรือ Mike Winklemann ซึ่งขายได้ในราคา $69 หรือราวๆ 2,294,491,500 บาท ใน christies.com
แนวทางการเข้าสู่การขายงาน Digital Art สามารถไปได้สองทาง
อย่างแรกคือ การสร้างเป็นคอลเลคชั่นสะสม ให้ผู้คนสามารถ Trading หรือแลกเปลี่ยนกันได้ ประมาณ 5-1000 ชุด อย่างเช่น Pudgy Penguin Series โครงการ NFT ภาพเพนกวินมากแรงที่มีมูลค่ากว่า 11.8 ล้านดอลลาร์ บน Ethereum ถือเป็นแพลตฟอร์มที่มีคนใช้มากที่สุดในปัจจุบัน รองจาก Bitcoin กว่า 8,888 ตัว โดยลูกเล่นของมันอยู่ที่ “การสุ่ม” ภาพเพนกวินออกมาโดยบางตัวมีหมวก มีแว่น เสื้อยืด รวมถึงของแรร์ที่นานๆ จะโผล่มาที ช่วยสร้างมูลค่าของสินค้าได้มากยิ่งขึ้น ซึ่ง Pudgy Penguin ตัวที่แพงที่สุดในปัจจุบัน เป็นเพนกวินที่มีฉากหลังเป็นสีเขียว แต่เป็นอันเดียวที่หันไปทางซ้าย รหัส #6873 ทําให้มันขายได้ถึง 150 WETH (Wrappred Ethereum) หรือประมาณ $458,000 (15,233,080 บาท) ซึ่งตอนนี้ถูกวางขายใน Opensea ที่ราคามากกว่า 1,00 ETH หรือราวๆ 3 ล้านดอลล่าห์ ตีเป็นค่าเงินได้ถึง 99,826,500 บาทเลยทีเดียว O_O (Cr. NFT Drops)
อย่างที่สองคือ การสร้างผลงานที่มีหนึ่งเดียวบนโลก อย่างของ Mike Winklemann’s พอสร้างแบรนด์ได้และสามารถขายงานได้ ผลงานก็จะยิ่งมีมูลค่ามากขึ้นมาดูแนวทางการสร้างแบรนด์ดิจิตอลบนสเปซเหล่านี้กันค่ะ
- การมีส่วนรวมใน NFT Communities, ทางคุณ @reylarsdam อธิบายให้ Shopify ฟังว่า NFT Community เปรียบเหมือนกระดูกสันหลังของทุกความสําเร็จบน NFT Space การสร้างฟีดบน Twitter และเข้าร่วมกลุ่ม Discord การสร้างพันธมิตรเป็นคีย์สําคัญในการโปรโมทตัวเองบน NFT Space
- เข้าร่วมกิจกรรมบน Metaverse(เมทาเวิร์ส) คริปโตเมทาเวิร์สสเปซ หรือ โลกดิจิทัลเสมือนจริง ยังคงเป็นพื้นที่ที่ยังคงมีแนวโน้มอีกยาวไกล โดยสเปซที่เป็นที่นิยมคือ Cryptovoxels และ Decentraland ใครจะคาดคิดว่า ที่ดินในเกม หรือที่หลายคนเรียก ที่ดินดิจิทัล จะมีการซื้อขายกันอย่างจริงจังและมีมูลค่าเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันผู้คนไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับโรคแห่งความเป็นจริงเท่านั้น แต่ยังใช้เวลาอยู่บนโลกออนไลน์มากกว่าจนทําให้เกิดคําว่า Metaverse หรือการรวมพื้นที่ของโลกจริงกับโลกเสมือนทําให้คนใช้ชีวิตอยู่ได้ในทั้งสองโลก ยิ่งช่วงนี้ “บล็อคเชน” เข้ามามีอิทธิพลกับเมทาเวิร์สมากขึ้น เนื่องจากเมทาเวิร์สทําให้เกิดการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกันโดยไม่ต้องพึ่งพาตัวกลาง ช่วยให้บล็อคเชน ทํางานได้สะดวกมากขึ้น ทําให้มูลค่าในโลกดิจิทัลมีราคาขึ้นมาทันที โดยปัจจุบันการซื้อขายที่ดินในโลกดิจิทัลมีมูลค่าเกินกว่าหลักล้านแล้ว
– การ Collabroation หรือการร่วมมือกันระหว่าง traditional art หรือศิลปะแบบดั้งเดิม การร่วมกันเป็นวิธีที่เวิร์คที่สุดในการทําให้งานปรากฎต่อหน้าผู้คนใหม่ๆ คุณสามารถร่วมมือกับศิลปินคนอื่นๆ ได้ ซึ่งจะช่วยทําให้คุณได้โปรโมทและทําให้งานเป็นที่รู้จักมากขึ้น
ศิลปินหลายท่านก็เป็นนักเทรด NFTs เช่นกัน และเขายังใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการโปรโมทผลงานให้ด้วยค่ะ
10. Tablet computers
Global order growth (YOY): 254%
แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ขายดีตลอดกาล มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการในรูปถนัดมือและความบางเฉียบ ใช้ LCD แบบสัมผัส และใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จไฟ ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 35.9 พันล้านดอลล่าร์ หรือราวๆ 131 แสนล้านบาทภายในปี 2024 ซึ่งคําว่า “คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต” มีการถูกค้นหามากกว่า 135,000 ครั้งต่อเดือน ถึงแม้จะมีข้อจํากัดตามความต้องการ เช่น แท็บเล็ตราคาถูกสําหรับนักเรียน หรือแท็บเล็ตคุณภาพสูงสําหรับงานกราฟิก ซึ่งในการอยู่ในอุตสาหกรรมแท็บเล็ตยังมีอีกหลายสายผลิตภัณฑ์ที่สามารถต่อยอดได้ เช่น เคส คีย์บอร์ด ที่ชาร์จ ปากกาสไตลัส หรืออุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มปริมาณสั่งซื้อได้อีก
การโปรโมผลิตภัณฑ์ขายดีเช่น แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ทางออนไลน์ คุณต้องรู้ความแตกต่างของพฤติกรรมการบริโภคระหว่างกลุ่มลูกค้าต่างๆ เช่น บริษัทเกี่ยวการดูแลสุขภาพ กับ ผู้ปกครองที่กําลังหาซื้อแท็บเล็ตให้ลูก การกําหนด Landing Pages ให้กลุ่มลูกค้าจึงเป็นสิ่งสําคัญมาก เพราะพฤติกรรมค่อนข้างแตกต่างกัน ซึ่งการจะซื้อแท็บเล็ตแต่ละเครื่อง ลูกค้าจะศึกษาข้อมูลเป็นจํานวนมากก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ตรงนี้คุณสามารถเลือกจัดอันดับสินค้ายอดฮิตก่อนตัดสินใจขึ้นโปรโมทเพื่อดึงดูดลูกค้าได้ค่ะ
หากคุณจ้องการแสดงโฆษณาบน Facebook หรือ Google Shopping ให้ลองกําหนดเป้าหมายผู้ชมตามชื่อแบรนด์ อย่าง Android หรือ Samsung Tablets หรือใช้ Facebook ในการกําหนดเป้าหมายว่าพื้นที่ไหนที่นิยมซื้อสินค้าประเภทนี้ค่ะ
Ref : https://www.shopify.com/blog/trending-products
ทดลองใช้ Shopify ฟรี 14 วัน คลิก >> https://bit.ly/3bv1NYX
—————————————
บริการครบวงจรเรื่องการตลาดออนไลน์
วางแผนการตลาดออนไลน์
คิดคอนเทนต์ให้โดนใจลูกค้า
เข้าถึงลูกค้าด้วย LINE OA
ยิงแอดโฆษณาให้ยอดขายปัง
ภาพกราฟิกเพิ่มความน่าสนใจให้สินค้าคุณ
ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่
– Facebook: VTACecommerce
– Website:www.vtacecommerce.com
– Line OA: @vtacecommerce