AI

7 ขั้นตอนที่เหมาะกับการ ใช้ AI ในการ “ไล่ล่า” ลูกค้า

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบัน AI กำลังเข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรม และเป็นแนวโน้มที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะสิ่งที่ผู้ประกอบการ SME สมัยนี้ต้องทำก็คือการนำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาเพื่อต่อยอดและพัฒนาธุรกิจ ทั้งในเรื่องของการจัดการ การผลิต ระบบโครงสร้าง ระบบองค์กร หรือแม้กระทั่งในรูปแบบของธุรกิจ เพื่อให้ได้มาซึ่งยอดขายรวมไปถึงเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและนำหน้าคู่แข่งให้มากที่สุด 

ก่อนอื่นเรามารู้จักกับ AI กันก่อน  AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence หรือที่เราได้ยินกันบ่อยๆว่า ปัญญาประดิษฐ์ ง่ายๆก็คือ ระบบ Machine ที่ถูกพัฒนามาจากการเขียนโปรแกรม อัลกอลิทึ่ม จนสามารถเรียนรู้ พัฒนาจนฉลาด สามารถคิด วิเคราะห์ แก้ปัญหาต่างๆได้ เหมือนกันมนุษย์นั่นเอง

AI

ปัจจุบันเรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับการนำ AI เข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ใช้ในสมาร์ทโฟน ทีวี หรืออุปกรณ์ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งข่าวการนำ AI มาทำงานบางอย่างแทนมนุษย์ ซึ่งในบางประเทศค่าแรงมนุษย์สูงกว่าค่าแรงหุ่นยนต์ และโดยเฉพาะในตอนนี้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเองนั้นก็มีการนำ AI เข้ามาใช้อย่างต่อเนื่อง แต่ AI จะสร้างประโยชน์เรื่องใดให้กับธุรกิจบ้างไปดูกันค่ะ

บริการลูกค้าได้ทันใจ

เพราะลูกค้าไม่ชอบรออะไรนานๆ โดยเฉพาะเมื่อเค้าต้องการคำตอบ การให้คำตอบที่เค้าต้องการยิ่งเร็วมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อธุรกิจมากเท่านั้น 

AI ที่นำมาใช้ในการบริการลูกค้าอีคอมเมิร์ซที่เราได้เห็นกันบ่อยๆอย่างเช่น Chatbots ในโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือ Line OA ตามรายงานของ BI Intelligence ระบุว่าเมื่อปี 2017 ผู้บริโภคทั่วโลกเคยใช้บริการจาก Chatbots ถึง 67% ซึ่งตัวเลขนี้ยืนยันได้ว่าเทคโนโลยี AI นี้ เข้ามามีบทบาทและสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้จริง 

แต่ถึงแม้ Chatbots  จะได้รับความนิยม และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ ช่วยลดเวลา ต้นทุน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผู้บริโภคทุกคนจะชอบ เพราะหลายๆคนก็ชอบคุยกับคนเป็นๆมากกว่า การนำเอา Chatbots มาใช้ร่วมกับพนักงานจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพการบริการของลูกค้าธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้ดียิ่งขึ้น 

ตอบโจทย์ลูกค้ารายบุคคล

การตลาดแบบเฉพาะเจาะจง (Personalized Marketing) สามารถทำได้ง่ายขึ้นจากการนำ AI เข้ามาช่วยตอบโจทย์ความต้องการรายบุคคลตามประวัติการเข้าชมสินค้า และในส่วนของการสั่งซื้อสินค้า สามารถทำเป็นระบบอัตโนมัติในการแนะนำสินค้าที่ลูกค้าอาจจะชื่นชอบ การส่งอีเมลรายการสินค้าแนะนำ สินค้าลดราคา หรือแม้กระทั่งการมอบสิทธิพิเศษพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ จากรายงานของ The Boston Consulting Group พบว่าธุรกิจที่นำ AI เข้ามาใช้ช่วยเพิ่มยอดขายได้ราว 6-10% ในทางตรงกันข้ามกรณีที่เราไม่มีการทำ Personalized เราอาจเสียลูกค้าไปถึง 75% หากลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าที่เรานำเสนอนั้นไม่เหมาะกับพวกเขาเลย

ค้นหาได้ง่ายดี

ทำไมการค้นหาจึงสำคัญ เพราะการซื้อสินค้าออนไลน์ เริ่มต้นด้วยการค้นหา ไม่ว่าจะค้นหาผ่านช่องทางใดก็ตาม หากลูกค้าค้นหาสินค้าที่เค้าต้องการไม่พบ นานๆไปลูกค้าอาจเปลี่ยนใจไปซื้อสินค้าจากเว็บไซต์อื่น

การนำ AI มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ จะช่วยให้เว็บอีคอมเมิร์ซจดจำวิธีการค้นหาของผู้ใช้แต่ละคน รวมไปถึงความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้การค้นหาสินค้าทำได้ง่ายง่ายขึ้นด้วยการค้นหาจากรูปภาพอีกด้วย

ทำนายพฤติกรรมในอนาคต

การนำ AI มาคาดการณ์พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของลุกค้าในอนาคต จะทำให้เจ้าของธุรกิจรู้ว่าสินค้าอะไรที่จะดึงดูดใจลูกค้า และจะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ ซึ่ง AI สามารถแสดงผลสินค้าที่คาดว่าลูกค้าน่าจะซื้อ พร้อมแสดงราคา บทความต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงรีวิวจากผู้ใช้งานจริง โปรโมชั่นต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น ยิ่งเรามีข้อมูลมากเท่าไหร่ การทำนายพฤติกรรมการซื้อสินค้าก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผู้ช่วยช้อปปิ้งเสมือนจริง

เว็บอีคอมเมิร์ซหลายแห่งได้เริ่มใช้ผู้ช่วยช้อปปิ้งเสมือนจริงหรือ Virtual Personal Assistant (VPA) เข้ามาช่วยในการสร้างกระบวนการขายให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อลูกค้าเข้ามาที่หน้าเว็บจะเจอกับ AI ที่พร้อมต้อนรับลูกค้าตลอดเวลา โดย AI จะเริ่มด้วยการถามคำถามต่างๆ และคอยเป็นผู้ช่วยในการเลือกซื้อสินค้าเพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด

รวมข้อมูลพฤติกรรมผู้ซื้อ

AI จะช่วยรวบรวมข้อมูล จัดกลุ่ม และหาแบบแผนของข้อมูลได้ รวมถึงวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมากได้ในระยะเวลาอันสั้น เพื่อปรับกลยุทธ์ให้โดนใจผู้บริโภค ทำให้ผู้ขายสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อ และหาสินค้ามาตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้โดนใจมากขึ้น

สร้างวิธีการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

AI จะช่วยเปลี่ยนรูปแบบการขายให้ดีขึ้น โดยเปลี่ยนวิธีการติดต่อกับลูกค้า และช่วยให้พนักงานขาย หรือระบบทำงานได้ดีขึ้น เช่น เทคโนโลยี Chatbot ระบบตอบข้อความอัตโนมัติธุรกิจบน Social Media เป็นต้น 

จะเห็นได้ว่า การนำเอา AI เข้ามาใช้ในธุรกิจอีคอมเมร์ซ จะเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในเรื่องของการขาย เรื่องการบริการ รวมไปถึงช่วยต่อยอดธุรกิจให้ผู้ประกอบการได้อย่างก้าวกระโดดโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเราเลือกใช้ AI ที่เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจของเรานั่นเอง

Leave a Reply